หากจะกล่าวว่าการบันทึกเวลาเข้าออกของพนักงานออฟฟิศ ถือเป็นสิ่งที่มาพร้อมๆ กับยุคทุนนิยมก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะว่าตั้งแต่เกิดระบบของการทำงานกินเงินเดือนเป็นต้นมา การลงเวลาในการทำงานก็ได้กลายเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด แต่ก่อนนี้อาจจะเป็นแค่การลงชื่อในสมุดเท่านั้น หากแต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ก้าวไกลจำนวนมาก ทำให้การลงเวลาทำงานเป็นโปรแกรมได้แม้กระทั่งลงจากในโทรศัพท์มือถือเลยก็ว่าได้ แต่ความเป็นมาของเครื่องบันทึกเวลาจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูพร้อมๆ กันเลย
1.ยุคของการใช้สมุดลงเวลา
แต่ก่อนนี้หากใครที่เคยไปในหน่วยงานราชการ ก็จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ายุคนี้เป็นยุคของการใช้สมุดลงเวลาสำหรับทำหน้าที่ในการตรวจสอบว่าเวลาในการทำงานของแต่ละคนจากกี่โมงไปจนถึงกี่โมง เพื่อเป็นการยืนยันว่าตนเองมาทำงานในแต่ละวัน ซึ่งการใช้สมุดมีข้อดีก็คือ เป็นหลักฐานแบบลายลักษณะอักษร ไม่มีการสูญหายไปได้
2.ยุคของเครื่องตอกบัตร
อันดับต่อมาเครื่องบันทึกเวลาได้กลายเป็นยุคของเครื่องตอกบัตร ซึ่งมีความสะดวกมากกว่าสมุดลงเวลาเป็นอย่างมาก และเป็นที่แพร่หลายสำหรับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วการบันทึกข้อมูลสำหรับเครื่องตอกบัตรสามารถทำได้แบบง่ายดาย แค่เรานั้นเลือกใช้บัตรกระดาษที่เสียบลงไปบนช่อง แล้วก็จะมีเครื่องที่ทำหน้าที่พิมพ์ว่าเวลาในการเข้างานคือกี่โมง ส่วนเวลาเลิกงานก็เช่นกัน จะมีการเซ็นชื่อกำกับเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตนไปด้วยอีกทางหนึ่ง หลังจากเครื่องตอกบัตรได้มีการพัฒนาอีกเล็กน้อย ทำให้กลายเป็นเครื่องรูดรบัตรที่จะใช้การทำบัตรระบุบาร์โค้ด แล้วให้พนักงานรูดเพื่อยืนยันเวลาเข้าออกได้
3.ยุคของเครื่องแสกนลายนิ้วมือหรือรูม่านตา
หลังจากนั้นได้กลายเป็นยุคที่เทคโนโลยีได้พัฒนาไปจนถึงขีดสุด โดยมีการแสกนรูม่านตาหรือแสกนลายนิ้วมือที่ไม่มีใครจะมาทำแทนกันได้อย่างแน่นอน และต้องใช้บุคคลเดียวกันกับการลงข้อมูลครั้งแรก ทำให้ไม่มีการลงเวลาทำงานแทนกันได้ แต่อย่างไรก็ดี เครื่องเหล่านี้ค่อนข้างแพงพอสมควร
และนี่ก็คือความเป็นมาของเครื่องบันทึกเวลาตั้งแต่สมัยเก่าสมัยก่อน หากว่าใครที่กำลังมองหาเครื่องสำหรับบันทึกเวลาเข้าทำงานแนะนำเลยว่าให้เลือกแบบที่เหมาะสมกับสไตล์การทำงานของบริษัทคุณเอง เพื่อลดปัญหาในการเข้างานสายของพนักงานได้อย่างตรงจุดและที่สำคัญยังเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมอีกด้วย ทำให้เกิดการตอบโจทย์การใช้งานที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน